ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb.
ชื่อวงศ์ : PIPERACEAE
ชื่อสามัญ : Wildbetal Leafbush
ชื่ออื่น : ช้าพลู ชะพลูเถา เฌอภลู ผักปูนา ผักปูลิง ผักปูริง ปูลิงนก ผักพลูนก ผักอีไร ผักอีเลิศ พลูลิง เย่เท้ย พลูนก ผักปูนก พลูลิงนก นมวา
ถิ่นกำเนิด :
มีถิ่นกำเนิดมาจากหมู่เกาะมาเลย์และหมู่เกาะชวา ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นผักสมุนไพรพื้นบ้านอีกชนิดที่อยู่คู่ครัวคนไทยมานานหลายทศวรรษทั้งในโหมดอาหารที่ทำได้หลากหลายเมนู เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ด้วยสภาพภูมิอากาศที่ไม่แตกต่างกันมาก จึงมีการเพาะปลูกชะพลูเติบโตได้ดีในประเทศไทย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ลำต้น เป็นเถาเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน สูง 30-80 เซนติเมตร สีเขียว แบ่งเป็นข้อแต่ละข้อจะมีรากงอกออกมาช่วยยึดเกาะ
ใบ เป็นใบเดี่ยว สีเขียวสด ออกเรียงสลับ แผ่นใบมีบาง ผิวใบเรียบเป็นมัน ลักษณะเป็นรูปหัวใจ กว้าง 5-10 ซม. ยาว 7-15 ซม. ปลายใบแหลม ฐานใบกว้าง โคนใบเว้า ใบมีกลิ่นฉุนและรสเผ็ดดอกมีสีขาว
ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบ ดอกออกอัดแน่นเป็นทรงกระบอกยาว
ผล สดกลมอัดแน่นอยู่บนแกน
การขยายพันธุ์ :
ขยายพันธุ์ ด้วยวิธีปักชำ เจริญเติบโตได้ทั่วไปตามที่เปียกชื้นปลูกง่าย โตไว
การใช้ประโยชน์ :
คนไทยส่วนใหญ่นิยมนำใบของต้นชะพลูมาทำเป็นผักจิ้มรับประทานกับอาหารไทยหลายชนิด เช่น เมี่ยงคำ เมี่ยงปลาทู ชุบแป้งทอด หรือนำไปใส่ในอาหารประเภทแกงกะทิต่าง ๆ เป็นต้น
ใบชะพลูจะมีรสเผ็ดร้อน ซึ่งช่วยขับเสมหะและทำให้เจริญอาหารยิ่งขึ้น
รากต้นชะพลูมีรสเผ็ดร้อนและมีสรรพคุณทางตำรับยาไทย โดยใช้บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ ขับเสมหะ แก้โรคบิด บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมในลำไส้
หากใช้ทั้งต้นชะพลูจะมีสรรพคุณเป็นยาช่วยรักษาโรคเบาหวานและโรคดีซ่าน