คำเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืช ที่ส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง คุณอรุณ หวานคำ ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมถึงความสำคัญของฐานทรัพยากรที่สำคัญของเราเหล่านี้ ว่า ตลอดสองข้างทางที่ขับรถมาจากเชียงรายถึงน่าน ด้วยเส้นทางสายสองแคว ผ่านภูเขาอันเคยเป็นทุ่งข้าวโพดสุดลูกหูลูกตา รวมถึงป้ายโฆษณาเมล็ดพันธุ์และสารเคมีหลากชนิดเรียงรายกันอยู่ตลอดสองข้าง ทาง ธุรกิจเมล็ดพันธุ์เหล่านี้มีมูลค่ามหาศาล เป็นปัจจัยการผลิตที่เหล่าเกษตรกรในปัจจุบันจำเป็นต้องซื้อหาในทุกฤดูกาล ผลิต ต่างจากในอดีตที่เคยมีครัวไฟ ที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชหลากชนิด ที่มีเขม่าจากการหุงต้มช่วยในการป้องกันแมลงได้อีกด้วย ถือเป็นภูมิปัญญาที่สำคัญในการปลูกและเก็บเมล็ดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการจัดการความหลากหลายโดยเกษตรกร ด้วยความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าขององค์ความรู้ พันธุ์และเทคโนโลยีในการผลิตที่สามารถแบ่งปันกันได้
ความรู้ของคนทำกสิกรรมอย่างชาวนา ที่คลุกคลีอยู่กับข้าวมานับๆสิบปี ถูกถ่ายทอด เล่าสู่กันฟังและแลกเปลี่ยนในประเด็น การเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เองโดยตัวแทนของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ตั้งแต่ ยอดดอยภูคา น่าน ไปจรดพื้นที่ราบของเมืองแพร่ ชนิดที่ว่าจะได้เห็นตั้งแต่ข้าวไร่หมุนเวียน นา/ไร่ขั้นบันได ข้าวที่โคก ไปจนถึงที่ราบลุ่มชลประธานเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้งกระบวนการเก็บแบบดั้งเดิมที่ยังคงปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ต่อมาจากบรรพบุรุษ โดยเลือกเก็บต้นที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ให้ผลผลิตสูงไว้เป็นต้นพันธุ์ต่อไป รวมถึงเกิดการรวบรวมสายพันธุ์ข้าวที่มีอยู่ในชุมชนและบริเวณใกล้เคียงมา เพื่อปลุกทดสอบคุณลักษณะเพื่อค้นหาลักษณะที่แท้จริงของพันธุ์ข้าวแต่ละชนิด
หลายคนบอกว่าพันธุกรรม คือ วิถีชีวิต จนเป็นความชอบ ความสนใจส่วนตัว เริ่มทำการศึกษาทดลองเรื่องพันธุ์ข้าว เพราะบทเรียนจากการใช้ปุ๋ย สารเคมี ในปริมาณที่สูงที่ยิ่งทำก็ยิ่งจน รายได้ลดลง แถมหนี้สินกับเพิ่มพูนขึ้น จึงเริ่มกลับมาใช้ภูมิปัญญาเดิมร่วมกับแนวคิดใหม่ๆที่ได้เรียนรู้มาจากที่ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณเดชา ศิริภัทรและทีมงานมูลนิธิข้าวขวัญ จากศูนย์เรียนรู้โจ้โก้หรือหน่วยงานอื่นๆ มาประยุกต์ใช้ในการปลูกข้าวพื้นบ้านหลากหลายเพื่อศึกษาลักษณะของแต่ละสาย พันธุ์ ทำความรู้จักกับลักษณะอันแท้จริง เพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวที่มีความนิ่ง คงตัวที่จะสามารถปลดปล่อยคุณสมบัติสูงสุดอันจะสามารถนำไปสู่ความเข้าใจใน ข้าวที่ปลูกมากยิ่งขึ้น
การคัดเมล็ดจากข้าวกล้อง และการปลูกข้าวแบบกอเดียวถูกนำมาใช้เพื่อการศึกษาคุณลักษณะของพันธุ์ เพราะหนึ่งกอคือหนึ่งเมล็ด จะสามารถเลือกต้นที่มีลักษณะตรงตามสายพันธุ์ ที่มีความแข็งแรง ต้านทานโรคแมลง มีการติดรวงสูง เพื่อนำมาใช้เป็นต้นพันธุ์ต่อไป ซึ่งจะนำไปไปสู่การปรับระบบเป็นการทำนาแบบอินทรีย์ ที่ไม่ใช่ปุ๋ย สารเคมี ที่จะคงไว้ซึ่งความหลากหลายของอาหารจากนา กบ เขียด ปู ปลา หอย ผักในแปลงงนาหลายชนิดเริ่มกลับมาช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับครอบครัว ได้อีกทางหนึ่ง
หลังจากดูแลให้ข้าวเจริญเติบโต ตัดข้าวปน (ข้าวที่มีลักษณะแตกต่างจากต้นอื่น ออกรวงไม่พร้อมลักษณะส่วนใหญ่) ก็จะทำการถอดรวง โดยเลือกต้นที่สมบูรณ์ที่สุด เก็บด้วยมือ เพื่อนำไปเป็นต้นพันธุ์ต่อไป ทั้งนี้จะต้องเขียนป้ายบอกชื่อข้อมูลพันธุ์ไว้ให้ชัดเจนก็สามารถได้พันธุ์ ที่มีคุณภาพด้วยมือตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยสำหรับเกษตรกร ทั้งนี้การสามารถเก็บพันธุ์ได้ด้วยตนเองยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการ ซื้อเมล็ดพันธุ์ ได้ข้าวที่มีความเหมาะสมกับลักษณะนิเวศจากการปลุกปรับสภาพให้เหมาะกับแปลงนา ของเราเอง
ชาวนาหลายท่านได้เล่าอย่างภาคภูมิใจถึงพันธุ์ข้าวที่ตนได้ปลูก ทำความรู้จัก และเลือกปลุกภายในแปลงของตนเองที่มีทั้งหวัน 1 หวัน2 เล้าแตก หอมเสงี่ยม นางนวล พญาลืมแกง ข้าวก่ำ ข้าวต่วย ข้าวห้าว ที่กลายเป็นขวัญใจหลายๆแปลงไปเสียแล้ว และคงมีอีกหลายชนิดที่ได้ถูกรวบรวมมมาเพื่อปลูกทดสอบคุณสมบัติของพันธุ์ใน อนาคต
ที่สำคัญคงไม่มีใครที่จะสามารถเลือกข้าวที่มีคุณสมบัติดีที่สุดนอกจากเจ้า ของเท่านั้น ภายใต้วัฒนธรรม ภายใต้วิถีชีวิต ภายใต้พันธุกรรมที่มากมาย เชื่อได้ว่าความหอม ความนิ่ม ความอร่อย คงเป็นเรื่องเฉพาะตัวข้าวแต่ละสายพันธุ์ คือ ความแตกต่าง ความหลากหลาย ที่เป็นความงดงามที่จะช่วยดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายทางพันธุมกรรมให้คงอยู่ สืบไปในอนาคต