มูลนิธิเอคโค่เอเชีย จ.เชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรวบรวมเก็บเมล็ดพันธุ์พืชพื้นบ้านไว้หลากหลายชนิด เพื่อกระจายและส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปใช้ และเก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ต่อไป
เบื้องหลังปรัชญาของมูลนิธิเอคโค่เอเชียมีว่า “ถ้าอยากเห็นอนาคตให้ไปดูในอดีต” และมีเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา ที่ทำให้เห็นและตระหนักความสำคัญของการเก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารในระยะยาว โดยเล่ากันว่า ผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า โยเชฟเป็นผู้มองเห็นอนาคตและสามารถทำนายฝันที่แม่นยำ ได้เดินทางไปอยู่อียิปต์ วันหนึ่งฟาโรห์ซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินอียิปต์ ได้ไปประทับอยู่ริมแม่น้ำไนล์ และฝันเห็นโคที่อ้วนสมบูรณ์ขึ้นมาจากแม่น้ำ 7 ตัว ในเวลาเดียวกันก็มีโคซูบผอมอีก 7 ตัว ขึ้นมาจากแม่น้ำ และกินโคสมบูรณ์ทั้งหมด แต่โคนั้นยังคงซูบผอมเช่นเดิม ฟาโรห์จึงให้โยเชฟทำนายฝันดังกล่าว ซึ่งถูกตีความว่า “ตลอด 7 ปี ต่อไปนี้ ดินแดนอียิปต์จะมีข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ แต่อีก 7 ปีให้หลัง จะเกิดความแห้งแล้งอดอยากทั่วแผ่นดินอียิปต์” ฟาโรห์จึงให้โยเชฟจัดการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาทั้ง 14 ปีดังกล่าว โยเชฟจึงจัดให้มีการเก็บรวบรวมผลผลิตทุกเมืองทุกบ้านในช่วง 7 ปีที่อุดมสมบูรณ์ของอียิปต์ เพื่อมาสะสมไว้หรือปลูกขยายและเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ เมื่อถึงยามแห้งแล้งอีก 7 ปีถัดไป เมล็ดพันธุ์และอาหารที่เก็บรวบรวมไว้ถูกนำแจกจ่าย ซึ่งทำให้ประชาชนชาวอียิปต์ สามารถผ่านพ้นช่วงแห้งแล้งและมีความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่ยาวนานนั้นได้ เรื่องเล่านี้เกิดขึ้นผ่านมา 3,000-4,000 ปีมาแล้ว แต่เป็นเรื่องราวคล้ายในปัจจุบันที่มนุษย์เริ่มมีความอดอยาก เกิดความแห้งแล้งหรือน้ำท่วม
ถึงวันนี้มีการระบาดของโรคลัมปี สกินที่เกิดในวัวหรือหมู ที่พบตุ่มเนื้อบนผิวหนังและเยื่อบนผิวหนังและเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ซึ่งต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม วัวหรือหมูอาจมีไข้และหายใจลำบากร่วม อาจทำลายชีวิตได้ ซึ่งเห็นได้ว่ามีโรคระบาดเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร แต่ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับอาหารการกินของเรา
ดังนั้น มูลนิธิเอคโค่เอเชีย จึงได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการเก็บเมล็ดพันธุ์ให้ได้พันธุ์แท้ เพราะหมายถึงการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์เป็นสิทธิของทุกคนที่เป็นเจ้าของอย่างเท่าเทียม โดยที่ไม่มีบริษัทค้าเมล็ดเข้ามาผูกขาดผ่านกฎบัตรต่างๆ รวมไปถึงความพยายามผลักดันให้ไทยเข้าร่วมในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค หรือ CPTPP ซึ่งภาคประชาชนต้องเข้ามาร่วมมือและคัดค้านประเด็นดังกล่าว