โทรศัพท์

096 948 1913

อีเมล์

sathaiaan@gmail.com

เวลาเปิด

จันทร์ - ศุกร์: 9:00 - 17:00

พอถึงเวลาต้องเลือกตัวแทนชาวนาจากพื้นที่ภาคกลางในเครือข่ายหนึ่งคน เพื่อพูดคุย ตั้งคำถามแบบล้วงลึกเกี่ยวกับมุมมอง ความคิดต่อการทำนา การปลูก ข้าว’ อาหารแห่งรัก(ษ์) มาบอกเล่าในงานเทศกาลข้าว 2567 ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2566 นี้  เราก็ตัดสินใจเลือก โอเล่-กนกพร ดิษฐกระจันทร์ แบบไม่ต้องคิดมาก เพราะเคยมีโอกาสลองถามโอเล่ก่อนหน้านี้ว่า ทำไมถึงยังทำนา ยังปลูกข้าว เพราะถ้าให้คิดถึงโอเล่ เราก็จะคิดถึงโอเล่ในบทบาทคนขายผลผลิต ขายผัก ขายอาหาร แกนนำในหลายตลาดเขียวของเมือง หรือไปส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยมากกว่า

โอเล่ตอบมาสั้น ๆ  ว่า เพราะข้าวคือต้นทางของอาหารอีกหลายอย่าง ถ้าให้ความสำคัญกับเรื่องข้าว นั่นหมายถึง เราก็ได้ให้ความสำคัญกับอาหาร และการกินอีกมากมายของผู้คน

พอได้ฟังคำตอบ ก็ตัดสินใจได้ว่าโอเล่น่าจะมีความรัก(ษ์) ซ่อนอยู่มากทีเดียว และยิ่งพอนึกย้อนไปถึงเมื่องานเทศกาลข้าวใหม่ปี 2565 เรามีโอกาสไปช่วยโอเล่ ‘หาบข้าวขึ้นลาน’  ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกใจมาก เพราะทุกกระบวนการใช้มือและแรงงานคนทั้งหมด ในพื้นที่ที่ได้ชื่อว่ามีเจ้าแม่แห่งนวัตกรรม และเทคโนโลยีชาวบ้านอย่างโอเล่อยู่ ทำไมถึงมาหอบข้าว หาบข้าวโดยใช้มือทั้งหมด?

ในขณะที่สอนเราหอบข้าว โอเล่ก็ตอบมา ว่า เพราะชาวนาเทียบได้กับช่างฝีมือ ในกลุ่มญาติพี่น้อง และเครือข่ายนี้ ยังคงทำนาด้วยมือเป็นหลัก การเกี่ยวด้วยมือทำให้เมล็ดข้าวเสียหายน้อยกว่าเกี่ยวด้วยเครื่องมาก การทำนาด้วยมือจึงเป็นเหมือนการแสดงความรัก ความเคารพของพวกเราที่มีต่อข้าว เคารพต่อแม่โพสพของชาวนา

และงานเทศกาลข้าวใหม่ 2567 นี้ โอเล่ กนกพร​ ดิษฐกระจันทร์​ ประธานกลุ่มส่งเสริมเกษตรกรอู่ทอง​ จ.สุพรรณบุรี​  ได้กล่าวถึงความรักที่ถูกส่งผ่านข้าวในหลายรูปแบบ

ความรักในอาชีพชาวนาของโอเล่​ ค่อย ๆ​ บ่มเพาะมาตั้งแต่วัยเยาว์​ อายุ​ประมาณ  5 ขวบ ก็ช่วยพ่อ เกี่ยวข้าวแล้ว​ แม้ช่วงหนึ่งจะออกจากบ้านไปทำงานโรงงาน​ แต่ก็ไม่เคยละทิ้ง หรือตัดขาดจาก การทำนาเลย จนเมื่อปี​ 2549 หลังพ่อเสีย​ ก็มารับสืบทอดอาชีพเป็นชาวนาเต็มตัว​ และหักดิบการทำนาของคนรุ่นพ่อ โดยการเลิกใช้ปุ๋ยยา สารเคมีทุกชนิด​ เชื่อในวิถีธรรมชาติ​ ที่จะค่อยๆ ฟื้นฟูระบบนิเวศที่ สูญสลายไปให้กลับมาอุดมสมบูรณ์​เช่นภาพในอดีต แรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจว่าจะไม่มีวัน เลิกทำอาชีพนี้​ ก็คือ​ ต้องการจะรักษาพื้นที่อาหาร และความมั่นคงนี้ไว้​ให้ลูกหลานที่อยู่และที่ จะกลับมา​ รู้ว่าการทำนาในระบบ อินทรีย์​ จะทำให้เกิดรายได้ที่ยั่งยืน​

นอกจากจะปลูกข้าว​สำหรับไว้กินเองเป็นหลัก​ และปลูกขายแบบเป็นเมล็ดข้าวแล้ว​ จุดเด่นของเกษตรกรกลุ่มนี้​ คือการนำข้าวมาแปรรูปในแบบต่างๆ​ ไม่ว่าจะเป็นเส้นขนมจีนแป้งสด​ แป้งข้าวสำหรับนำไปทำขนมเบเกอรี่และขนมไทย​ โจ๊ก​ และที่ไม่ค่อยมีใครนิยมทำกัน ก็คือ​ ข้าวระยะน้ำนม​ ที่เหมาะสำหรับคนป่วย​ เนื่องจากมีสารอาหารอยู่ครบ

“เราไม่ได้กินแค่ข้าวที่อยู่ในจาน​ เรากินขนมด้วย​ เราเอาข้าวไปทำขนม​ เอาไปโม่​ทำแป้ง เพื่อ ทำขนมเบื้อง​ ลอดช่อง​ เปียกปูน​ อย่างน้อยก็ขนมไทย​ ข้าวเป็นทั้งของหวานและของคาว ได้หมดเลย​ และเดี๋ยวนี้คนกินขนมปังแพ้กลูเต็น เขาก็ใช้แป้งที่ทำมาจากข้าวที่พวกเราทำ​ เอาไปทำขนมปัง​ โดนัท​ คุกกี้​ แทนแป้งสาลี”

นอกจากความอิ่มท้อง​ ข้าวยังให้คุณค่าทางโภชนาการ​ พี่โอเล่แนะนำว่า ถ้าอยากได้ประโยชน์มากกว่าแป้ง และน้ำตาล​ เราควรหันมากินข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ​

“ข้าวที่พวกเราตั้งใจทำ​ มันเป็นข้าวที่คุณกินแล้ว​ คุณสามารถเปลี่ยนตัวเอง​ ไม่ต้องไปหา ยาปฏิชีวนะ​มากินแทนข้าว​ เอาง่ายๆ​ คือ​ คุณกินข้าวเป็นยา​ อย่างข้าวหอมนิล เป็นข้าว ที่มีวิตามินอีสูงมาก​ มันเหมาะกับการทำเครื่องประทินผิว​ เครื่องสำอาง​ เพราะฉะนั้น คนที่กินข้าวกล้องหอมนิล​ คุณก็ได้วิตามินอีไปบำรุงผิวพรรณของคุณเอง​ การกิน คือ การบำรุงจากข้างใน​ มันไม่ใช่บำรุงแค่ข้างนอก​ ไม่ใช่สวยจากข้างนอก​ แต่คุณสวยจากข้างใน​ แล้วคุณก็ไปทาข้างนอกเพิ่ม”

และในสภาพภูมิอากาศที่รวนเรเช่นนี้​ การเตรียมพร้อมและปรับตัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้​ สำหรับโอเล่​ เธอเอ่ยถึงวิธีรับมือของตนเองว่า​ สิ่งสำคัญคือการเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้​ปลูกต่อ​ นอกจากช่วยลดต้นทุนแล้ว​ ยังช่วยให้ฝ่าทุกวิกฤติไปได้

“สภาพแวดล้อมที่มันเปลี่ยนไป​ ทั้งร้อนทั้งฝน​ มีผลกระทบต่อข้าวแน่นอน​ การติดดอก​ การผสมเกสร​ แต่เป็นความโชคดีที่เราเก็บพันธุ์เอง​ เป็นความโชคดีที่เราเปลี่ยนตัวเองมานาน​ มีผลกระทบอะไรมา​ เราก็รับมือได้​ อย่างน้ำมาไม่ตรงเวลา​ เราก็ใช้วิธีตัดตอข้าว​ ปลูกครั้งเดียว แล้วให้มันแตกมาจากกอเดิม​ ช่วงอายุข้าวหายไป​ 30​ วัน​ ทันน้ำที่อาจจะหลากมาพอดี”

โอเล่กล่าวทิ้งท้ายถึงกิจกรรมในงานเทศกาลข้าวใหม่ 2567 นี้ว่า​ ​”เราไม่ชวนมาชิมข้าว​แต่เราชวนมากินข้าวกับอาหารอะไร​ แล้วคุณคิดว่ามันว้าวมากที่สุด”

บทความแนะนำ